เงินขาดบัญชี-เจ้าหน้าที่โกงรัฐเสียหาย 1.1 หมื่นล้าน
นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานปลัดฯ กำลังประสานส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ให้เร่งแก้ปัญหากรณีหน่วยงานของรัฐมีปัญหาเงินขาดบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต หลังพบว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวล่าช้ามาก แม้ที่ผ่านมาได้แจ้งหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมาชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมให้แจ้งผลความคืบหน้าในการดำเนินการทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสามารถยุติไปเพียง 7 เรื่องเท่านั้น และยังมีเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการมากกว่า 2,931 เรื่อง “การแก้ไขปัญหาแต่ละเรื่องล่าช้ามาก อาจเป็นทั้งกระบวนการตรวจสอบทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย ที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความผิดของผู้ที่กระทำการทุจริต ซึ่งจะแจ้งให้ทุกหน่วยงานเร่งสรุปเรื่องอย่างเร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนประเทศ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้หมดไป”
สำหรับในภาพรวม ตั้งแต่อดีตถึงสิ้นปีงบประมาณ 59 สำนักงานปลัดฯได้รับการรายงานว่ามีเรื่องเงินขาดบัญชีและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินงาน จำนวน 2,838 เรื่อง รวมเป็นเงินที่เสียหาย 11,383 ล้านบาท จำแนกเป็นราชการส่วนกลาง 234 เรื่อง ราชการส่วนภูมิภาค 640 เรื่อง ราชการส่วนท้องถิ่น 1,496 เรื่อง รัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน 468 เรื่อง โดยหน่วยงานที่มีการทุจริตมาก 3 อันดับแรก คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1,496 เรื่อง กระทรวงมหาดไทย 219 เรื่อง และกระทรวงศึกษาธิการ 218 เรื่อง
อย่างไรก็ตาม หากจำแนกตามประเภทการทุจริต พบว่า การกระทำผิดกรณีปัญหาเงินขาดบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตอันดับหนึ่ง คือ การยักยอกเงินหรือทรัพย์สินราชการ 1,507 เรื่อง การปฏิบัติผิดระเบียบ 656 เรื่อง การจัดซื้อจัดจ้าง 605 เรื่อง การเบิกค่าเช่าบ้านเท็จ 39 เรื่อง การทุจริตน้ำมันเชื้อเพลิง 20 เรื่อง และการเบิกค่ารักษาพยาบาลเท็จ 11 เรื่อง โดยแต่ละเรื่องถือว่ามีผลกระทบกับภาครัฐ และจำเป็นต้องเร่งดำเนินการตามกระบวนการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงทันที.
ขอขอบคุณแหล่งที่มาภาพ : ไทยรัฐ
หากท่านมีความสนใจบริการของตรวจสอบภายใน สามารถติตต่อได้ที่
เบอร์ 02-596-0500 ต่อ 327 ด้วยความยินดียิ่ง