News

| Wednesday, 02 October 2019 |
Written by 

การตลาดยุคดิจิตอล

 

 

เมื่อโลกเปลี่ยน การทำธุรกิจจึงต้องปรับตัวด้วยการนำ Digital Marketing มาใช้ แล้วการตลาดในยุคดิจิทัลประกอบด้วยอะไรมา ทำทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันครับ

คำจำกัดความ

Marketing คือ พื้นที่ที่ทำให้ผู้ซื้อกับผู้ขายมาพบกัน การที่ผู้ขายทำการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้บริโภค เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคและทำการเก็บเกี่ยวคุณค่าจากผู้บริโภคมาสู่ตัวผู้ขาย

Digital คือ เทคโนโลยี เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์

Digital + Marketing = การใช้การตลาดผ่านทางเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น เว็บไซต์, อีเมล์ หรือสื่อต่าง ๆ โดยมีการใช้ Digital Data เกี่ยวกับผู้บริโภคนั้น ๆ ในด้านของข้อมูลหรือพฤติกรรม

 

การตลาดในแต่ละยุค

• Marketing & Digital Marketing

ในยุคปัจจุบันเป็นยุคสื่อ หรือยุคที่มีข้อมูลจำนวนมาก (Over Information) ซึ่งถ้าหากข้อมูลใดไม่ได้รับความสนใจอาจจะสูญเสียโอกาสและถูกลดการมองเห็นไป อีกทั้งยังเป็นยุคของการตลาดแบบ 4.0 ซึ่งหากจะอธิบายยุคของการตลาดที่ผ่านมาจะอธิบายคร่าวๆ ได้ดังนี้

- การตลาดในยุค 1.0

เป็นยุคของการตลาดที่มีผู้ขายเพียงรายเดียว หรือที่เรียกว่า “Monopoly” เป็นตลาดที่มีการแข่งขันต่ำ เนื่องจากไม่มีคู่แข่ง

- การตลาดในยุค 2.0

เป็นยุคที่ผู้ขายมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างกัน และมีการนำเครื่องมือทางการตลาด หรือ Marketing Tools มาใช้ หลักๆได้แก่

1. 4P ประกอบไปด้วย Product, Price, Place, Promotion

2. 5 Stage ได้แก่ Awareness, Try, Purchase, Repeat, Advocate

- การตลาดในยุค 3.0

เป็นยุคที่อธิบายด้วยคำนิยามว่าเป็นยุคของ The Heart Over Head หรือยุคที่หัวใจมีอำนาจเหนือสมอง ทำให้เกิดการใช้ Marketing Tool เพิ่มขึ้นจากยุค 2.0 ได้แก่ 3P ซึ่งประกอบไปด้วย Physical Evidence, Process และ People เพื่อสร้างและเพิ่มเติมคุณค่าให้กับตัวสินค้าและบริการของผู้ขาย

- การตลาดในยุค 4.0

เป็นยุคการตลาดที่นำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วย เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคหรือลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการตลาดในยุคนี้การขายของไม่หยุดเพียงแค่หน้าร้านอีกต่อไป แต่จะมีการต่อยอดมาถึงออนไลน์อีกด้วย

กระแสของ Digital Marketing ในปัจจุบัน (Heat of Digital Marketing)

- ร้อยละของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 8 อันดับ โดยแบ่งตามประเภทของสื่อและสังคมสังคมออนไลน์
1. Youtube 98.8%
2. Line 98.6%
3. Facebook 96.0%
4. (Facebook) Messenger 88.4%
5. Instagram 67.2%
6. Pantip 64.2%
7. Twitter 43.0%
8. Whatapp 10.6%

กระแสของ Digital Marketing ในปัจจุบัน (Heat of Digital Marketing)

- ร้อยละของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 5 อันดับเมื่อเปรียบเทียบประเภทสื่อและสังคมออนไลน์ที่ใช้ในแต่ละเจเนอเรชั่น
1. Baby Boomer (พ.ศ. 2489 – 2507)
Line > Youtube > Facebook >Messenger >Pantip
2. Gen X (พ.ศ. 2508 – 2522)
Line > Youtube > Facebook >Messenger >Pantip
3. Gen Y (พ.ศ. 2523 – 2540)
Youtube > Line > Facebook > Messenger > Instagram
4. Gen Z (พ.ศ. 2540 ขึ้นไป)
Youtube > Line > Facebook > Messenger > Instagram

Consumer Decision Journey (CDJ)

Consumer Decision Journey หรือ เส้นทางของลูกค้าจนพบผู้ขาย เนื่องจากปัจจุบันลูกค้ามีการคิดแบบ Multi-Path Decision Process หรือกระบวนการตัดสินใจแบบหลายขั้น เพราะปัจจุบันลูกค้ามีเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูลที่ง่ายและสะดวกขึ้น ทำให้ลูกค้าต้องการข้อมูลในการตัดสินใจ ซึ่งยิ่งสินค้าหรือบริการมีราคาแพง ลูกค้าจะใช้เวลาและผ่านการตัดสินใจหลายทางก่อนจะทำการตกลง ผู้ขายจึงจำเป็นที่จะต้องทำ Information Trap หรือการดักจับลูกค้าในระหว่างเส้นทางต่าง ๆ ซึ่งการจะทำ Information Trap จะไม่ใช่การหว่านแหไปในทุกช่องทาง ทุกสื่ออย่างเปล่าประโยชน์ แต่เป็นการมองหาช่องทางที่มีโอกาสสูงสุดที่จะคว้าลูกค้ามาอยู่กับเรา (หาช่องทางที่ Critical ที่สุด)

คำศัพท์ทางด้าน Digital Marketing และ Content Marketing

1. Trend Rider การเกาะกระแส คือการอาศัยสิ่งที่กำลังเป็นจุดสนใจ หรือเป็นประเด็นจากสังคมในขณะนั้น

2. (Online) Customer Service Wit การใช้ไหวพริบในการบริการลูกค้า ตอบรับความคิดเห็น (Comment) ต่าง ๆ

3. Viral (Good Cause) การส่งผ่านความคิด กระจายความเชื่อแล้วเกิดการนำไปทำตามต่อๆกัน เช่น Ice Bucket Challenge ซึ่งเป็นกระแสจากการที่มีการกระจายข่าวสารว่าจะมีการระดมทุนเพื่อผู้ป่วย ALS หรือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

4. Buzz คือการพูดต่อ ๆ กัน นำข่าวสารไปบอกต่อ

5. Advocate คือการพูดสนับสนุน

6. Activation คือการปรากฏตัวของผู้บริโภค

7. Influencer คือผู้มีอิทธิพลหรือผู้ชักนำทางความคิด

ความแตกต่างระหว่าง โฆษณา,การประชาสัมพันธ์ และ Content

1. โฆษณา (Advertise)

ต้องการจะพูดถึงตัวสินค้า เพื่อที่จะขายหรือสร้างการจดจำให้ลูกค้า

2. การประชาสัมพันธ์ (Public Relation)

ต้องการจะพูดถึงว่า ใคร/ทำอะไร/ที่ไหน/อย่างไร เพื่อสร้างภาพลักษณ์

3. Content

เป็นการพูดถึงเนื้อหาหรือข้อมูล เพื่อเป็นการกระจายความรู้และสร้างการมีส่วนร่วม

Content Marketing

Content Marketing คือ การใช้เทคนิคทางการตลาดในการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการเพื่อสร้างคุณค่าให้กับสิ่งนั้น โดยต้องมีความต่อเนื่องในการกระจายข่าวสารนั้น ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าและค้นหากลุ่มลูกค้าหรือผู้สนใจที่แท้จริง และผลักดันการกระทำของลูกค้าที่ก่อให้เกิดกำไร
ซึ่ง Content Marketing ที่ดีในยุคของ Over Information จะต้อง

1. เข้าถึงได้ง่าย,เป็นมิตร

2. ต้องมีความน่าสนใจ ล่อตาล่อใจ (ไม่ควรเน้นการขายมากเกินไป)

การใช้ Content จะมีการพูดถึงเรื่องของ trustworthy หรือความน่าเชื่อถือ ว่าการเลือกใช้ช่องทาง/บุคคล หรือสื่อใดในการกระจายข้อมูลแล้วจึงจะมีผู้สนใจ ได้รับกระแสตอบรับที่ดี และ Content Marketing จะเชื่อมโยงไปถึง Advocacy หรือ การนำไปพูดสนับสนุน การตอบรับของผู้รับสาร โดย Advocacy แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆได้แก่

1. Review

เป็นการแสดงความคิดเห็นจากผู้ใช้ที่นำมาบอกต่อ ว่าจากประสบการณ์ในการใช้จริงเป็นอย่างไร ซึ่งจะได้ในด้านของกระแส และบุคคลรอบๆข้าง ซึ่งการรีวิวอาจจะมีทั้งด้านที่เป็นบวกและด้านที่เป็นลบ

2. Testimonialเป็นการรับรองหรือการการันตีจากบุคคล เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้พบเห็น

3. Reaction จะเป็นการแสดงออกของตัวผู้ที่ใช้บริการ เช่น ว้าว! แสดงความตื่นตะลึง แปลกใหม่ น่าสนใจ

- หากมองถึงความเกี่ยวข้องและเป้าหมายสูงสุด เนื่องจากการใช้ Content คุณไม่สามารถที่จะมุ่งเน้นไปที่การขายเพียงอย่างเดียว (Hard sell) เพราะฉะนั้นคุณจึงจำเป็นที่ต้องจะคิดและมองให้กว้างขึ้นเกี่ยวกับความหมายหรือคำนิยามของผลิตภัณฑ์ของตัวเอง (ซึ่งถ้าจะให้ดีต้องให้มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของลูกค้า)

- ในการใช้ Content ต้องทำการทดลอง เก็บข้อมูล และเก็บประสบการณ์ เพื่อมองหาระยะเวลาหรือช่วงเวลาที่ Content จะมีประสิทธิภาพที่สุดในการสื่อสารและส่งข้อมูลให้กับลูกค้า ในหลักการของ “Put the Right Content at the Right Time” และในทุก ๆ Content ต้องไม่เล่นกับความทุกข์ ความสูญเสียหรือความหวังของผู้คน


เรื่องโดย นายพงศธร ศิริวัฒนสกุล บริษัท ตรวจสอบภายในธรรมนิติ

 

Last modified on Wednesday, 02 October 2019